วันอาทิตย์ที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2555

บ้านจ๊างนัก






                                               บ้านจ๊างนัก 


       บ้านจ๊างนัก เลขที่ 51/1 หมู่ 2 ตำบลบวกค้าง อำเภอสันกำแพง เป็นสถานที่นำเสนอผลงานหลากหลายของศิลปิน และกลุ่มช่างฝีมือพื้นบ้านแห่งล้านนาไทย โดยได้ถ่ายทอด สร้างสรรค์จากจินตนาการที่งดงาม ลงการแกะสลักไม้รูปช้างในหลากหลายท่วงท่าและอิริยาบถ คุ้มค่าต่อการเดินทางไปชื่นชมความงามที่ศิลปินได้ถ่ายทอดลงสู่ลายไม้ได้ เหมือนจริงอย่างยิ่ง การเดินทาง ใช้ถนนสายเชียงใหม่-สันกำแพง ข้ามสะพานแม่น้ำออนแล้วเลี้ยวขวาผ่านวัดแช่ช้าง วัดดอนปิน และวัดบวกค้าง บ้านจ๊างนักติดอยู่กับวัดบวกค้าง โทร. 0 5333 2578

บ้านไร่ไผ่งาม


                                               บ้านไร่ไผ่งาม 


         บ้านไร่ไผ่งาม เป็นหมู่บ้านผลิตผ้าฝ้ายทอมือแบบโบราณที่ มีคุณภาพและมีชื่อเสียงของจังหวัดเชียงใหม่ ตั้งอยู่กิโลเมตรที่ 69-70 ตามเส้นทางเชียงใหม่-ฮอด และเลี้ยวซ้ายเข้าไปหมู่บ้านอีกประมาณ 1 กม. ทางเข้าหมู่บ้านร่มรื่นด้วยเงาไม้ไผ่สองข้างทาง ปัจจุบันกลุ่มแม่บ้านซึ่งได้รับการถ่ายทอดการผลิตผ้าฝ้ายทอมือย้อมสี ธรรมชาติจากใบไม้และดอกไม้เป็นสีพิเศษ จากคุณป้าแสงดา บันสิทธิ์ ศิลปินแห่งชาติ รวมกลุ่มกันผลิตที่บ้านป้าแสงดา ซึ่งอยู่ติดกับลำน้ำปิง ปัจจุบันได้จัดทำเป็น พิพิธภัณฑ์ผ้าป้าดา เพื่อรำลึกถึงผลงานของท่าน และยังแสดงถึงชีวิตความเป็นอยู่แบบพื้นบ้านในสมัยก่อนด้วย ผู้เยี่ยมชมสามารถเรียนรู้ดูผลงานตั้งแต่กระบวนการผลิตจนเป็นผลิตภัณฑ์จาก ผ้าฝ้ายทอมือที่มีลวดลายและสีสันสวยงาม มีเอกลักษณ์เฉพาะที่ทรงคุณค่าแห่งมรดกภูมิปัญญาส่วนบุคคล พิพิธภัณฑ์ผ้าป้า ดาได้รับรางวัลแหล่งท่องเที่ยววัฒนธรรมภาคเหนือปี 2551 สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 0 5336 1231 E-mail:sale@baanraipaingarm.comwww.baanraipaingarm.com โทรสาร 0 5336 1230 สถานที่ติดต่อในเมืองเชียงใหม่ โทร. 0 5327 3625

ล่องแก่งลำน้ำแม่ตื่น

ล่องแก่งลำน้ำแม่ตื่น 


           ล่องแก่งลำน้ำแม่ตื่น (อ.อมก๋อย-อ.สามเงา) เริ่มล่องเรือที่บ้านห้วยน้ำขาว อำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ ผ่านผืนป่าที่สมบูรณ์ ของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่ตื่น พักแรมริมลำน้ำแม่ตื่น ใช้เวลาในการล่อง 2 คืน 3 วัน / ระดับแก่ง 2-3 ราคา 4,500 บาท / คน (มากกว่า 10 คน) สามารถล่องได้ตั้งแต่เดือนตุลาคม-กุมภาพันธ์

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ นัมเบอร์โฟร์ เกสท์เฮาส์ โทร. 0 5554 4976, 08 1785 2098


ปางช้างแม่ตะมาน



  



 ปางช้างแม่ตะมาน 


       ปางช้างแม่ตะมาน  ปางช้างแม่ตะมานตั้งอยู่ที่อำเภอแม่แตง บนพื้นที่กว่า 25 ไร่ โอบล้อมด้วยธรรมชาติของทิวเขา สายน้ำ และวัฒนธรรมชาวท้องถิ่นชนบท ระยะเวลามากกว่า 10 ปีที่ปางช้างเปิดให้บริการกับนักท่องเที่ยวได้มาเที่ยวชมและทำกิจกรรมร่วม กับช้างไทยใจดี ตั้งแต่วันที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2530 จากช้าง 10 เชือก บัดนี้ปางช้างแม่ตะมานมีช้างทั้งหมด 60 เชือก เพื่อรองรับจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่เข้ามาชมการแสดง ช้าง นั่งช้าง และสัมผัสวิถีชีวิตของชาวไทยภูเขาเผาลีซอ ล่องแพไม้ไผ่ในลำน้ำแม่แตง และเดินป่าระยะสั้น


ช้างไทย เคยเป็นสัญลักษณ์บนผืนธงสีแดงของชาติไทยก่อนหน้าผืนธงไตรรงค์ในปัจจุบันนี้ ช้างเป็นสัตว์มีความความผูกพันกับชาวไทยมาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ คนกับช้าง และช้างกับควาญ จึงอยู่ร่วมกันอย่างใกล้ชิดตลอดมา เด็กไทยทุกคนรู้จักเพลง ช้าง  เป็นอย่างดี 


การแสดงช้าง


       ปาง ช้างแม่ตะมานเปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 08.00 ? 15.00 น. มีกิจกรรมหลากหลายไว้คอยบริการนักท่องเที่ยว เปิดให้บริการทุกวัน สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่ (053) 297060, 297283 โทรสาร (053) 297283


การแสดงช้าง ใช้เวลาประมาณ 50 นาที เริ่มการแสดงรอบปกติเวลา 09.40 ? 10.30 น. รอบพิเศษเวลา 08.30 ? 09.20 น. และรอบบ่ายสำหรับการจองเป็นหมู่คณะ (รายละเอียดรอบการแสดง กรุณาโทรสอบถามเพิ่มเติม) คุณจะได้พบกับความสามารถอันหลากหลายของช้างนักแสดง


- เปิดการแสดงด้วยขบวนช้างนักแสดง ถือป้าย ? ยินดีต้อนรับ ? และทำท่าสวัสดี แสดงความเคารพผู้ชม

- แสดง ความคุ้นเคยและการสื่อสารระหว่างควาญช้างกับช้าง โดยให้ช้างปฏิบัติตามคำสั่งของควาญ เช่น ให้ช้างนั่ง นอน หรือย่อตัวเพื่อให้ควาญช้างขึ้นลง
- ช้างแสดงการเล่นอุปกรณ์เครื่องดนตรีและการเต้นเข้าจังหวะ
- ช้างออกกำลังกาย โดยการโยนลูกบอลเข้าห่วง และการแตะลูกฟุตบอลเข้าตาข่าย
- ช้างแสดงความแสนรู้ ด้วยการเดินสองขาและใช้ง่วงใส่หมวก ให้ควาญ เก็บของโยนลงตะกร้า การนวดให้คนด้วย การแตะเท้าและง่วงอย่างเบาๆ
- แสดงวิธีการทำงาน ด้วยการเก็บโซ่พันคอช้างด้วยตัวช้างเอง และการชักลากซุงแล้วนำไปเรียงกันอย่างเป็นระเบียบ
- ช้างแสดงความสามารถพิเศษ ด้วยการวาดรูป ที่ค่อยๆ บรรจงตวัดพู่กันลงบนกระดาษมูลช้าง จนออกมาเป็น รูปต้นไม้ที่มีดอกไม้บาน
- ปิดการแสดงด้วยขบวนช้างนักแสดง ถือป้ายแสดงคำว่า ? ขอบคุณ ? และหลังจากนั้น ก็เปิดโอกาสให้ผู้ชมเข้าไป ใกล้ชิดกับช้างได้


และที่ปางช้างแม่ตะมานยังมีบริการให้นักท่องเที่ยวได้เพลิดเพลินกับ การขี่วัว  ล่องแพไม้ไผ่  เดินป่า  เยี่ยมชมหมู่บ้านชาวเขา  ล่องแพยาง  และการฝึกเป็นควาญช้าง

แผนที่ปางช้างแม่ตะมาน 




ทำบุญเก้าวัดเชียงใหม่ , ทำบุญ 9 วัดเชียง



ทำบุญเก้าวัดเชียงใหม่ , ทำบุญ 9 วัดเชียง








           เชียงใหม่ ให้เช่า รถตู้ Toyota D4D Commutor VIP10 ที่นั่งให้เช่า วันละ 1800 ไม่รวมน้ำมัน Commuter หลังคาทรงสูง เบาะStandard 12 ที่นั่ง วันละ 1500 เจ้าของรถตู้เป็นคนขับเอง ชำนาญเส้นทางเป็นอย่างดี สุภาพเป็นกันเองและใจดี และรับจัดทัวร์ธรรมเป็นประจำ พร้อมดูแลเด็ก ผู้สูงอายุไปทำบุญ 


       โปรแกรม ทัวร์ ไปทำบุญ 9 วัดเชียงใหม่ ใหว้พระธาตุ เย็นค่ำแวะทานขันโตก ที่คุ้มเจ้านางน้อย และไปเดินต่อที่ถนนคนเดิน แหล่งซื้อของ มีที่พักสวย สะอาด ระดับ 4 ดาว รวมอาหารเช้า เจ้าของรถตู้เขับเอง ชำนาญเส้นทางสุภาพเป็นกันเองและใจดีพร้อมดูแลเด็ก และผู้สูงอายุ และรับจัดทัวร์ธรรมเป็นประจำ 



08.00 -09.00 น.ออกเดินทางสู่วัดวัดเชียงมั่น ซึ่งเป็นวัดแรกในจังหวัดเชียงใหม่ สร้างเมื่อ พ.ศ.1840 - 



09.00 -10.00 น. ไป วัดดวงดี มีโบสถ์แบบพื้นเมืองล้านนา 



10.00 -11.00 น. ไปวัดเจดีย์หลวง แวะนมัสการเสาอินทขิล หรือ เสาหลักเมือง วัดนี้เป็นวัดที่มีเจดีย์ที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งตั้งอยู่ในใจกลางเมือง ท่านจะได้พบกับความตระการตากับเจดีย์องค์ใหญ่ที่สูงถึง 88 เมตร แต่ต่อมาได้หักโค่นลงเพราะเกิดแผ่นดินไหว เมื่อปีพ.ศ. 2008 และหน้าประตูทางเข้าวิหาร มีบันไดนาคเลื้อยลงมางดงามยิ่ง ใช้หางเกี่ยวกระหวัดขึ้นไปเป็นซุ้มประตูวิหาร นาคคู่ นี้เป็นฝีมือเก่าแก่มากที่มีตั้งแต่เดิม ได้ชื่อว่าเป็นนาคที่สวยที่สุดของภาคเหนือ 



11.00 -12.00 น. ไปวัดพระสิงห์วรมหาวิหารเดิมชื่อ วัดลีเชียงพระ เมื่อประมาณปี พ.ศ.1943 เจ้ามหาพรหม ได้อัญเชิญพระพุทธสิหิงค์ มาจากกำแพงเพชร และนำไปถวายแด่พระเจ้าแสนเมืองมา พระเจ้าแสนเมืองมาได้อัญเชิญไปประดิษฐานไว้ที่พระวิหาร พระธาตุวัดพระสิงห์ เป็นพระธาตุประจำปีมะโรง(งูใหญ่) ดังนั้นผู้ที่เกิดปีมะโรงจะได้ไหว้พระธาตุประจำปีเกิดที่นี่ 




12.00 น.หยุดพักรับประทานอาหารกลางวันขนมจีน ข้าวซอย ก๋วยเตี๋ยวหน้าวัด อาหารพื้นเมืองที่อร่อยตามใจท่าน 



13.00 -14.00 น.ไปวัดดับภัย พญาอภัย อธิษฐานต่อหน้าหลวงพ่อดับภัย อาการป่วยจึงหาย 



14.00 -15.00 น. ไปวัดหมื่นเงินกอง วัดนี้ตั้งอยู่ที่ ถ.สามล้าน ต.พระสิงห์ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ วัดนี้มีชื่ออันเป็นสิริมงคลยิ่ง ท่านจะได้กราบไหว้ขอพรจากฤาษีทันอก ฤาษีทันตา ฤาษีทันใจ ให้ได้มีเงินมีทองนับได้สามหมื่นกอง จะเป็นสิริมงคลให้แก่ชีวิตท่าน ให้ท่านมีเงินทองเป็นหมื่นๆกอง 



15.00 -16.00 น.ไป.วัดลอยเคราะห์ เดิมชื่อวัดร้อยข้อ (ฮ้อยข้อ) ปัจจุบันวัดนี้มีชื่อที่ถือเป็นมงคล ท่านจะได้ถวายสังฆทาน กราบพระ และรับพรจากพระ มีคนไปกราบไหว้มากมาย เพราะต่างเชื่อกันว่าสิริมงคลและบุญที่ได้นั้นจะช่วยให้เคราะห์ร้ายต่างๆลอย ผ่านพ้นไป และจะมีแต่โชคดีตลอดไป 



16.00 -17.00 น.วัดชัยมงคล ท่านจะได้ทำบุญปล่อยปลา ปล่อยเต่า ปล่อยนก ไหว้เจ้าแม่กวนอิม เติมน้ำมันตะเกียง เพื่อความสว่างไสว โชติช่วงชัชวาลในชีวิตของท่าน 



17.00 -18.00 น.วัดเกตการามวัดนี้เป็นวัดเก่าแก่ สร้างขึ้นมาราว 575 ปี พระวิหารเป็นทรงล้านนาที่มีหลังคาทรงจั่วซ้อนกัน 5 ชั้น 2 ตับซึ่งหาดูได้ยากมากโบราณสถานที่ทรงคุณค่าของวัดนี้ คือ พระธาตุเจดีย์ ที่สร้างจำลองพระธาตุจุฬามณีบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ซึ่งเป็นพระธาตุประจำปีเกิดของผู้ที่เกิดปีจอ ดังนั้นผู้ที่เกิดปีจอจึงสามารถไหว้พระธาตุองค์นี้แทนได้ และภายในวัดนี้ยังจัดแสดงพิพิธภัณฑ์ของใช้สมัยโบราณ และเครื่องดนตรีไทยชนิดต่างๆ ผ้าทอ และถ้วยชาม เป็นต้น 



18.00 น.เดินทางกลับที่พักด้วยบุญกุศล ที่เราได้ทำเป็นอานิสงฆ์ให้มีความสุขสงบ 



19.00 น. ไปทานขันโตกที่คุ้มเจ้านางน้อย ดูการแสดง ฟ้อนพื้นเมืองล้านนนา 



21.00 น. ไปเดินถนนคนเดินที่เปิดวัน ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ หรือวันธรรมดาจะไปเดินไนท์พลาซ่า 



23.00 น. กลับที่พัก ระดับ 4 ดาวที่ บ้านมณีวงษ์ ถนนราชดำเนิน 




ใบโพธิ์ นวดแผนไทย ( เชียงใหม่ 89 พลาซ่า)










ใบโพธิ์ นวดแผนไทย ( เชียงใหม่ 89 พลาซ่า)



ใบโพธิ์  นวดแผนไทย  

ด้วยบุคลากรที่มีความชำนาญด้านการนวดโดยเฉพาะ
รวมกับบรรยากาศที่ทำให้ท่านรู้สึกผ่อนคลาย  
ด้วยราคาที่ไม่แพง  นวดไทย/เท้า  ชม.ละ 150 บาท

สถานที่ตั้ง  เชียงใหม่ 89 พลาซ่า  ถ.เชียงใหม่-ลำพูน  อ.เมือง
โทรจองล่วงหน้าได้ที่ โทร: 082-390-3905
เปิดบริการทุกวัน  เวลา 11.00-22.00 น.
www.bai-po.com































อนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย


อนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย



       อนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย  ตั้งอยู่ตรงทางขึ้นดอยสุเทพ ก่อนถึงน้ำตกห้วยแก้ว ครูบาศรีวิชัยเป็นนักบุญแห่งล้านนาไทยผู้เป็นที่เคารพศรัทธาของชาวเชียงใหม่ และประชาชนโดยทั่วไป ผู้ที่จะขึ้นไปดอยสุเทพมักจะแวะนมัสการอนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัยเพื่อความ เป็นสวัสดิมงคล ครูบาศรีวิชัยเป็นผู้ริเริ่มชักชวนให้ประชาชนชาวเหนือร่วมแรงร่วมใจกันสร้าง ถนนจากเชิงดอยขึ้นไปสู่วัดพระบรมธาตุดอยสุเทพ โดยเริ่มลงมือ เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2477 และแล้วเสร็จเมื่อปี พ.ศ. 2478 รวมระยะทางจากเชิงดอยไปถึงวัดพระธาตุดอยสุเทพ 10 กิโลเมตร      นอกจากนี้ผู้ที่สนใจตักบาตรยามเช้าที่เชียงใหม่ที่มีพระภิกษุเดินเป็นสายนับ ร้อยรูป สามารถมาที่เชิงดอยสุเทพ บริเวณลานครูบาศรีวิชัย ที่นี่จะมีพ่อค้าแม่ค้านำอาหารและน้ำให้บริการถึงที่ โดยผู้แสวงบุญไม่ต้องเตรียมของสำหรับใส่บาตรเลย พระภิกษุจำนวนมากนี้ เป็นพระเณรจากวัดศรีโสดา ซึ่งเป็นวัดที่ชาวเขานิยมมาบวชเรียนจำนวนมาก ผู้มาใส่บาตรควรแต่งกายสุภา

น้ำตกโป่งน้อย

    

                                                                น้ำตกโป่งน้อย

     น้ำตกโป่งน้อย อ. แม่วาง จ. เชียงใหม่ตั้งอยู่ในเขต อุทยานแห่งชาติแม่วาง อยู่ในตำบลแม่วิน
อำเภอแม่วาง เป็นน้ำตกที่มีน้ำไหลเป็นจำนวนมากและตลอดทั้งปีเป็นน้ำตก 3 ชั้น มีความสูง 35 เมตร กว้าง 25 เมตร เป็นน้ำตกขนาดใหญ่


วันเสาร์ที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2555

ตลาดวโรรส (กาดหลวง)







ตลาดวโรรส (กาดหลวง)


       ตลาดวโรรส (กาดหลวง) จ.เชียงใหม่ สถานที่ตั้งอยู่ที่ ต. ช้างม่อย อ. เมือง จ. เชียงใหม่ ทิศเหนือติดถนนช้างม่อย ทิศใต้ติดตรอกเล่าโจ๊ว ทิศตะวันออกติดถนนวิชยานนท์ และ ทิศตะวันตกติดถนนข่วงเมรุ คน มักเข้าใจว่า ตลาดวโรรส หรือกาดหลวง คือรวมทั้งบริเวณตลาดต้นลำไยที่อยู่ฝั่งตรงข้าม และ ตลาดดอกไม้ด้วย แต่ในความเป็นจริงแล้ว ตลาดดอกไม้เป็นของเทศบาล และตลาดต้นลำไยก็บริหารโดยอีกบริษัทหนึ่ง


ข้อมูลทั่วไปของตลาดวโรรส
- บริหารงานโดย บริษัทเชียงใหม่พาณิชย์ จำกัด (ในเครือหสน. อนุสาร)
- สร้าง ขึ้นเป็นรูปแบบตลาดเมื่อ พ.ศ. 2492 อาคารปัจจุบันสร้างเสร็จปี 2515 ออกแบบโดย ศ. อัน นิมมานเหมินท์ แห่งคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- ตัวอาคารมีสามชั้น อีกทั้งมีชั้นใต้ดิน และชั้นลอย มีแผงทั้งหมดประมาณ 500 แผง
ชั้นใต้ดิน ขายอาหาร และเครื่องดื่ม เด่นที่ขนมจีนซึ่งมีหลายร้านให้เลือก
ชั้น 1 ของฝาก ของที่ระลึก อาหาร ผักสดและผลไม้เมืองหนาว
ชั้นลอย 1 1/2 มีส่วนที่เป็นเขียงหมู และด้านหน้าที่ขายเสื้อผ้า รองเท้า และพวกเครื่องนอน
ชั้น 2 เสื้อผ้าสำเร็จรูป รองเท้า กระเป๋า เครื่องสำอางค์ และรับจ้างตัดเย็บผ้า
ชั้นลอย 2 1/2 เสื้อผ้าเมือง และรองเท้าแฟชั่น ปัจจุบัน ลานตรงกลางจัดเป็นลานโปรโมชั่น ขายสินค้าลดราคา
ชั้น 3 เสื้อผ้าพื้นเมืองและเสื้อผ้าสำเร็จรูป กระเป๋า และมีร้านขายอาหาร เครื่องดื่มตามสั่ง และห้องสมุดสำหรับเด็กอยู่ชั้นนี้ด้วย
- มีร้านทำผมสองร้านในตลาด ร้านแรกอยู่ชั้น 2 1/2 อีกร้านอยู่ที่ชั้น 3 ข้างห้องสมุด
- ทางตลาดได้ทำการกำจัดกลิ่นอาหารโดยการแบ่งโซนสำหรับทอดหมูและไส้อั่ว โดยทำท่อดูดกลิ่นและควันขึ้นใหม่
- ก่อน งานราชพฤกษ์ ทางตลาดได้ทำการปรับปรุงห้องน้ำชั้นหนึ่ง และมีการจัดทำห้องน้ำคนพิการไว้ด้วย ปัจจุบัน มีห้องน้ำสามจุด ทั่วตลาด (ชั้นละหนึ่งจุด แยกชายหญิง)
- ทางตลาดได้รับรางวัลตลาดสดน่าซื้อระดับห้าดาวจากทางเทศบาล ตั้งแต่ปี 2547 เป็นต้นมา


เขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล


                                                       เขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล 



       เขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล เป็นเขื่อนที่สร้างขึ้นตามพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เดิมชื่อว่า เขื่อนแม่งัด ตั้งอยู่บนลำน้ำแม่งัด สาขาแม่น้ำปิง อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ และยังตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติศรีลานนา สำหรับทางเข้าเขื่อนอยู่ประมาณหลักกิโลเมตรที่ 41 บนทางหลวงหมายเลข 107 (สายเชียงใหม่-ฝาง) เลี้ยวขวาไปอีกประมาณ 11 กิโลเมตร


ข้างนอกมีร้านอาหารนั่งทานเป็นอาหารประเภทปลาเป็นหลัก อร่อยและสดมาก



ส่วนข้างในมีสถานที่ท่องเที่ยวพักผ่อน เป็น guest house อยู่ในเขื่อน ต้องนั่งแพต่อเข้าไป
อัตราค่าแพเข้าไป เหมาลำ 300 บาท



ส่วนแพข้างใน ตกลงราคากันไม่แพง เหมาเลยทั้งบ้านก็ได้ (ในที่นี้เราแนะนำที่พักที่ แพเอกชัย)


ไหว้สาพระราชชายาเจ้าดารารัศมี เสริมศิริมงคลก่อนท่องเที่ยวแม่ริม

ไหว้สาพระราชชายาเจ้าดารารัศมี เสริมศิริมงคลก่อนท่องเที่ยวแม่ริม





          พระตำหนักดาราภิรมย์ในพระราชชายาเจ้าดารารัศมีเป็นมรดกล้ำค่าของแผ่นดิน ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้รับเกียรติเป็นผู้สืบทอดและพิทักษ์รักษา ด้วยตระหนักในภาระหน้าที่อันยิ่งใหญ่นี้เอง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยจึงเห็นสมควรที่จะต้องบูรณะพระตำหนักดาราภิรมย์ให้ อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์งดงามใกล้เคียงกับสภาพเดิมเมื่อกาลก่อน เพื่อจัดตั้งเป็นพิพิธภัณฑ์ โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะเชื่อมโยงเรื่องราวต่างๆระหว่างบรรพชนในอดีต กับอนุชนรุ่นหลังเพื่อให้ได้ทราบถึงพระปรีชาสามารถ และพระกรุณาธิคุณของพระราชชาบาเจ้าดารารัศมี ขัตติยนาผู้ทรงอุทิศพระองค์ตลอดพระชนม์ชีพ เพื่อความวัฒนาสถาพรแห่งดินแดนล้านนา นอกจากนี้พระตำหนักดาราภิรมย์ยังเป็นพระตำหนักที่ประทับสุดท้ายที่พระราช ชายาเจ้าดารารัศมีทรงรักและผูกพันอย่างยิ่ง
ห้องต่างๆ ในพระตำหนักดาราภิรมย์
          ชั้นบน? 1.โถงทางเดิน จัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับพระปฐมวงศ์ พระประวัติ พระตำหนักที่ประทับในพระราชชายาเจ้าดารารัศมี พระตำหนักดาราภิรมย์? 2.ห้องรับแขก จัดแสดงของถวายอันเกี่ยวเนื่องกับพระราชชายาเจ้าดารารัศมี และเครื่องเรือนร่วมสมัย? 3.ห้องบรรทม จัดแสดงของถวายอันเกี่ยวเนื่องกับพระราชชายาเจ้าดารารัศมี และเครื่องเรือนร่วมสมัย 4.ห้องพักผ่อนพระอิริยาบถ จัดแสดงจานชาม เครื่องเสวย ของใช้ส่วนพระองค์ และเครื่องดนตรี 5.ห้องจัดแสดงพระกรณียกิจ ด้านการศาสนา ด้านการเกษตร และด้านศิลปะศาสตร์ 6.ห้องจัดแสดงชุดเครื่องทรง ผ้าทอที่พระราชชายาฯทรงออกแบบลวดลายและส่งเสริมการทอ ชุดการแสดงที่พระราชชายาฯได้ทรงฟื้นฟูและทรงดัดแปลงศิลปะภาคกลางให้เข้ากับ ศิลปะภาคเหนือ 7.ห้องสรงชั้นล่าง จัดแสดงเครื่องมือเกษตร ที่ทรงใช้ในการทดลองการเกษตรแผนใหม่ ในสวนเจ้าสบาย นอกจากนั้นยังมีเครื่องทอผ้า ซึ่งใช้ทอผ้าสำหรับพระราชชายาฯโดยเฉพาะ
พระประวัติพระราชชายาเจ้าดารารัศมี
         เจ้าดารารัศมีประสูติ เมื่อวันอังคารที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2416 ณ คุ้มหลวงกลางนครเชียงใหม่ เป็นพระธิดาในพระเจ้าอินทวิชยานนท์ เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ ทรงได้รับการศึกษาจากพระชนก-ชนนี ในเรื่องอักษรไทยเหนือและใต้เช่นเดียวกับกุลบุตรกุลธิดาในสมัยนั้น เมื่อเจ้าดารารัศมีทรงเจริญพระชันษาได้ 13 ปี พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระเจ้าอินทวิชยานนท์จัดพิธีโสกันต์พร้อมกับพระราชทานเครื่องโสกันต์ ระดับเจ้าฟ้าให้เจ้าดารารัศมีทรงใช้ในพิธีอีกด้วย
พระองค์ได้ประกอบพระกรณียกิจหลายด้านตลอดเวลา ๑๙ ปี ที่ดำรงพระชนม์อยู่ ไม่ว่าจะเป็นด้านทรงส่งเสริมการเกษตร,ทรงทำนุบำรุงศาสนา,ทรงส่งเสริมการ ศึกษา??? ,ทางด้านวรรณกรรม,ทางด้านการหัตถกรรม ตลอดเวลาที่ประทับรับราชการฝ่ายในที่กรุงเทพฯ พระราชชายาฯได้อนุรักษ์วัฒนธรรมล้านนา ทรงโปรดให้ผู้ที่ติดตามจากเชียงใหม่แต่งกายแบบชาวเหนือ คือนุ่งผ้าซิ่น สวมเสื้อแขนกระบอก ห่มสไบเฉียงและไว้ผมยาวเกล้ามวย ซึ่งต่างจากการนุ่งโจงกระเบน ไว้ผมสั้นทรงดอกกระทุ่มของชาววัง
ในระหว่างที่ประทับอยู่เชียงใหม่ พระราชชายาฯทรงดำริเห็นว่าบรรดาพระอัฐิของพระประยูรญาติผู้ล่วงลับไปแล้ว ซึ่งบรรจุไว้ตามกู่ที่สร้างกระจัดกระจายอยู่ในบริเวณข่วงเมรุ เป็นบริเวณที่ถวายพระเพลิงพระศพเจ้านายตระกูล ณ เชียงใหม่ จึงโปรดให้รวบรวมและอัญเชิญพระอัฐิไปสร้างรวมกันไว้ ณ บริเวณวัดบุบผาราม (วัดสวนดอก) ตำบลสุเทพ
พระราชชายาฯทรงดำรงพระชนม์อย่างสงบสุข ณ พระตำหนักดาราภิรมย์อยู่หลายปีจนสิ้นพระชนม์ด้วยโรคปัปผาสะพิการ (โรคปอด) เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2476 ณ คุ้มรินแก้ว รวมสิริพระชันษาได้ 60 ปี
วัน เวลา เปิดพิพิธภัณฑ์ วันอังคาร ? วันอาทิตย์ เวลา 9.00 ? 17.00 น. (วันจันทร์หยุดทำการ) อัตราเข้าชมพิพิธภัณ ผู้ใหญ่ 20 บาท,เด็ก 10 บาทพระสงฆ์/นักเรียนในเครื่องแบบฟรีพิพิธภัณฑ์พระตำหนักดาราภิรมย์ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ (ในบริเวณค่ายดารารัศมี) โทร.053 299 175      .


พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเชียงใหม่


                                     พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเชียงใหม่



             พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเชียงใหม่      เป็นพิพิธภัณฑ์ชาติพันธุ์วิทยา และศูนย์กลางการศึกษา การอนุรักษ์และเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมของจังหวัดเชียงใหม่ และของภาคเหนือตอนบน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็๗พระนางเจ้าสิริกิตติ์บรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2516 ปัจจุบัน พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เชียงใหม่ ได้ร้บการปรับปรุงทั้งเนื้อหาการจัดแสดง อาคารสถานที่ และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างภายในพิพิธภัณฑ์ให้สามารถเป็นแหล่งเรียนรู้ที่มี ประสิทธิภาพและเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมที่น่าสนใจยิ่ง      

ตั้งอยู่บนถนนซูเปอร์ไฮเวย์ (เชียงใหม่-ลำปาง) ใกล้ๆ กับวัดเจ็ดยอด รวบรวมสิ่งของที่เกี่ยวกับศิลปวัฒนธรรมของภาคเหนือไว้ เช่น พระพุทธรูปสกุลช่างสมัยล้านนาต่างๆ และพระพุทธรูปสมัยเชียงแสน เครื่องไม้แกะสลัก เครื่องถ้วยภาคเหนือ เครื่องใช้ในชีวิตประจำวันของชาวล้านนาและชาวเขาเผ่าต่างๆ ภาพถ่ายประวัติศาสตร์ของเชียงใหม่ 
      
พิพิธภัณฑ์เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00-16.00 น. หยุดช่วงวันสงกรานต์ และวันปีใหม่ ค่าเข้าชม คนไทย 10 บาท ชาวต่างประเทศ 30 บาท นักเรียน นักศึกษาฟรี รายละเอียด โทร. 0 5322 1308 หรือ www.thailandmuseum.com


พระบรมธาตุแสนไห


                                                              พระบรมธาตุแสนไห


         พระบรมธาตุแสนไห อยู่ที่ตำบลเมืองแหง จากบ้านเมืองายเข้ามา 55 กิโลเมตร
 เชื่อกันว่าสร้างมาตั้งแต่สมัยพุทธกาลแต่มาได้รับการบูรณะในพ.ศ. 2457เป็นปฏิมากรรมผสมระหว่างพม่าและล้านนาไทย
 ซึ่งการก่อสร้างทับพระธาตุเดิมที่มีขนาดเล็ก โดยของใหม่มีสันถาร 8 เหลี่ยมสันนิษฐานว่าที่นี่มีความสัมพันธ์เกี่ยว
เนื่องกับสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เมื่อครั้งยกทัพไปยังเมืองอังวะของพม่าเมื่อปี พ.ศ. 2147  หลังจากประชุมพลที่เมืองงาย
 จึงเสด็จไปทางเมืองห้างหลวงซึ่งน่าจะเป็นเมืองแหง
ในปัจจุบันเพราะมีคูเมือง ล้อมยาวกว่า 2 กิโลเมตร และเป็นเมืองเดียวที่อยู่ระหว่างเมืองงายกับเมืองอังวะของพม่า
 เชื่อว่าพระองค์น่าจะเสด็จมาพักทัพที่พระบรมธาตุแห่งนี้และสร้างบ่อน้ำใช้ส่วนพระองค์และช้างศึกตรงบริเวณ
ด้านหน้าเนินเขาที่ประดิษฐานพระบรมธาตุ 
ชาวบ้านเรียกว่าบ่อน้ำช้าง ประเพณีที่สำคัญของวัดนี้ 
คือ งานสรงน้ำพระบรมธาตุ ในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 ของทุกปี ที่มา ททท.

วัดบุพพาราม


                                                                        
                                     วัดบุพพาราม



       วัดบุพพาราม ตั้งอยู่บนถนนท่าแพเยื้องกับวัดแสนฝาง อำเภอเมือง เป็นวัดคู่เมืองเชียงใหม่ พระเมืองแก้วโปรดให้สร้างเมื่อ พ.ศ. 2039 ได้รับการบูรณะเมื่อ พ.ศ. 2362 เจ้าหลวงธรรมลังกาโปรดให้สร้างวิหารหลังเล็กซึ่งเป็นเครื่องไม้ศิลปะล้านนา หน้าบันเป็นปูนปั้นประดับกระจกแกะลายสลักไม้อย่างงดงาม ส่วนวิหารหลังใหญ่หน้าบันมีลวดลายไม้แกะสลักแบบพม่า เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปหล่อด้วยทองแดงล้วนหนัก 1 โกฏิ อายุ 400 ปีเศษ และพระพุทธรูปเชียงแสนหล่อด้วยสำริดอยู่ทางด้านซ้ายและขวาอีกหนึ่งคู่ ภาย ในหอมณเฑียรธรรมประดิษฐานพระพุทธรูปไม้สักขนาดหน้าตักกว้าง 1 วาเศษ มีอายุประมาณ 400 ปี ตามประวัติเล่าว่า สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงยกทัพจากเมืองอยุธยาเพื่อขึ้นมาปราบอริราชศัตรูที่มารุกรานเมือง เชียงใหม่ เมื่อ พ.ศ. 2147 จนทัพศัตรูได้ล่าถอยไปทางเมืองแหงและเมืองต๋วน สมเด็จพระนเรศวรฯจึงพักรบและสร้าง ?พระพุทธนเรศศักดิ์ชัยไพรีพินาศ? องค์นี้ขึ้น     


วัดศรีสุพรรณ


                                                                         วัดศรีสุพรรณ


        วัดศรีสุพรรณ ตั้งอยู่ที่ถนนวัวลาย ตำบลหายยา อำเภอเมือง สร้างขี้นเมือพุทธศักราช 2043 รัฐสมัยของพระเจ้าเมืองแก้ว กษัตริย์ในราชวงค์มังราย และทำการผูก พันธสีมาพระอุโบสถ พุทธศักราช 2052 ใช้เป็นที่ทำสังฆกรรมของคณะสงฆ์ เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธปาฏิหารย์ (พระเจ้า 500 ปี) ของวัดศรีสุพรรณมาโดยตลอด และอุโบสถหลังนี้ได้ชำรุดทรุดโทรมลงจนไม่เหลือเค้าโครงเดิม และจะได้มีการสร้างอุโบสถใหม่เป็นอุโบสถเงิน
ในการสร้างอุโบสถเงินครั้งนี้ ได้ดำเนินการในเขตพันธสีมาและฐานเดิม แต่จะเพิ่มเติมในส่วนของรูปทรงให้เป็นแบบ สถาปัตยกรรมล้านนาโบราณ โครงสร้างก่ออิฐถือปูน และประดับตกแต่งลวดลายทุกส่วนด้วยอลูมิเนียมและเงิน สลักลวดลายภาพ สามมิติ เรื่องราวเกี่ยวกับพุทธศิลป์ปริศนาธรรมคำสอนในทางพระพุทธศาสนา ประวัติศาสตร์ของวัดและชุมชน ตลอดถึงวิธีการ ขั้น ตอนลวดลาย ประจำตระกูลช่างเครื่องเงินของบ้านศรีสุพรรณ โดยช่าง (สล่า ) เครื่องเงินของบ้านศรีสุพรรณ ซึ่งนอกจากจะเป็นการ สืบต่ออายุพระพุทธศาสนาแล้ว ยังเป็นการรักษาภูมิปัญญาท้องถิ่น ด้านการทำเครื่องเงินไว้เป็นมรดกสืบทอดไปสู่อนุชนรุ่นหลังให้ ยั่งยืนต่อไป ดังนั้นทางวัดจึงได้จะทำโครงการสร้างอุโบสถเงินวัดศรีสุพรรณนี้ขึ้นโดยมี ปณิธานว่าจะร่วมสร้างสรรค์ ส่งเสริม สนับสนุน ภูมิปัญญาท้องถิ่นและสร้างศิลป์เป็นอนุสรณ์แก่แผ่นดินถิ่นล้านนา และถวายไว้ในบวรพระพุทธศานาสืบต่อไป เข้าไปดูรายละเอียดที่ www.watsrisuphan.org     


โป่งเดือดป่าแป๋


                                                                      
                                 โป่งเดือดป่าแป๋ 


           โป่งเดือดป่าแป๋  ตำบลป่าแป๋ อำเภอแม่แตง ห่างจากเชียงใหม่ประมาณ 40 กิโลเมตร เป็นน้ำร้อนที่พุ่งขึ้นมาจากพื้นดินในอดีตน้ำพุแห่งนี้สูงถึง 5 เมตร ปัจจุบันสูงเพียง 1 เมตร รอบ ๆ บริเวณซึ่งเป็นป่าทึบจะอบอวลไปด้วยกลิ่นกำมะถัน บริเวณโดยรอสะอาด และจัดนิทรรศการได้น่าสนใจ
     
             น้ำพุเกิดจากปริมาณน้ำใต้ดินที่ส่วนใหญ่ได้จากน้ำฝนที่ซับสู่ใต้ดิน หากดินมีความพรุนมาก ความพรุนของดินนี้เกิดจากต้นไม้  น้ำพุร้อนที่นี่คาดว่ามีการเกิดแบบน้ำพุร้อนกีเซอร์ (Geyser type) ลักษณะของน้ำพุ่งขึ้นจากระดับผิวดินเป็นครั้งคราวตลอดเวลาและคุณสมบัติของน้ำพุร้อนอย่างหนึ่งคือ ช่วยรักษาโรคปวดตามข้อ
     
               การเดินทาง ใช้ถนนสายแม่มาลัย-ปาย ไปประมาณ 35 กิโลเมตร ประมาณกิโลเมตรที่ 42 แล้วเลี้ยวขวาเข้าไปอีกประมาณ 6.5 กิโลเมตร เป็นทางลาดยาง สามารถใช้บริการรถโดยสารประจำทางสีส้ม สายเชียงใหม่-ปาย  ซึ่งจะวิ่งผ่านปากทางเข้า จากลานจอดรถจะต้องเดินทางไปประมาณ 500 เมตร  
 
       มีบริการบ้านพัก 8 หลังๆละ 3,000 บาท มีเต้นท์ให้เช่า และมีบริการอาบน้ำแร่ ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท ติดต่อ โทร. 0 5322 7954 หรือ สำนักอุทยานแห่งชาติ กรุงเทพฯ โทร. 0 2562 0760 
www.dnp.go.th